หน้าหลัก Uncategorized

ยูทูป สิ่งควรรู้

ยูทูป
แอปดีๆ ต้องมีในโทรศัพท์

ในบทความนี้ จะมาพูดถึง ยูทูป กันนะคะ เพราะว่าในปัจจุบันเรานี้ YouTube เนี่ย เป็นช่องทางการหาเงิน อีกช่องทางหนึ่ง ของนักยูทูปเบอร์ ได้หลายคนด้วยค่ะ และผู้ชมนะคะ ก็มีส่วนร่วมในการดู YouTube ได้นะคะ และเป็นสิ่งที่ช่วยเพลิน ผ่อนคลายความเครียด จากที่ทำงานมาเหนื่อย หรือเรียนมาหนัก ก็สามารถดูแล้วเพลินไปได้ค่ะ ถ้าอยากรู้แล้วไปดูพร้อมกันเลย

ประวัติ ยูทูป

ยูทูป ก่อตั้งขึ้นโดย พนักงานของบริษัทเพย์แพล ซึ่งเป็นเว็บไซต์ สำหรับการแบ่งปัน วีดิทัศน์ โดยที่สมาชิก ของยูทูป สามารถอัปโหลด และสำรวจวีดิทัศน์ได้ โดเมนเนมของยูทูบมีว่า “www.youtube.com” ซึ่งเผยแพร่ ครั้งแรก ในวันจันทร์ ที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005 เวลา 09:13 นาฬิกา

ยูทูป ก่อตั้งโดยแชด เฮอร์ลีย์, สตีฟ เชน และยาวีด คาริม โดยทั้งหมด เป็นพนักงานฝึกหัด ที่บริษัทเพย์แพล เพื่อที่จะเข้าเป็น บุคลากรของบริษัทเพย์แพลโดยเฮอร์ลีย์ ได้เข้ามหาวิทยาลัยอินเดียดา แห่งเพนสิเวอร์เนีย ด้านการออกแบบ

เชนกับคาริม ศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ ด้านวิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ โดยสำนักงานแห่งแรกของยูทูป อยู่ที่ข้างบนร้านพิซซา และร้านอาหารญี่ปุน ในซานเมเทโฮ รัฐแคลิฟอร์เนีย

สำนักงานยูทูบ ได้รับเงินเริ่มกิจการ จากนักลงทุนผู้เมตตาปราณี ที่สำนักงานชั่วคราว ในโรงจอดรถ เดือนพฤษจิกายน ค.ศ. 2005 บริษัทนักลงทุน สิโคอิ แคพปิเทิล ได้ลงทุนเริ่มแรก ในจำนวนเงิน 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โรอิโลฟ โบธาร์ (เป็นหุ้นส่วนของบริษัทนักลงทุน

และอดีตประธานด้านการเงินของบริษัทเพย์แพล) ได้เป็นหนึ่ง ในคณะกรรมการสำนักงานยูทูบ ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2006 คณะจัดการบริหารสิโคอิ แอนด์อาร์ติส แคพปิเทิล ได้ลงทุนเป็นเงินอีก 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในระยะเวลา 2-3 เดือน สำนักงานเติบโตอย่างน่าใจหายมาก

ประโยชน์และโทษของ ยูทูป

ยูทูป
ดูเหลิน ผ่อนคลาย ดีที่สุด😊

ประโยชน์

1. เป็นแหล่งเรียนรู้ ที่ให้ข้อมูลต่างๆ ซึ่งสามารถทำความเข้าใจได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น การสอนการแต่งหน้า ซึ่งเป็นเทคนิค ที่ทำความเข้าใจยาก ถ้าศึกษาจากหนังสือ หรือนิตยสาร เราก็ไม่สามารถเห็น การลงมือปฏิบัติ แต่งหน้าที่ชัดเจน

เช่นการเลือกสี การลงสี และน้ำหนักหนัก-เบา แต่การศึกษาจาก youtube เราสามารถ ทำความเข้าใจ และปฏิบัติตาม ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมค่ะ

2. เป็นแหล่งรวมความบันเทิง เช่น เพลง มิวสิควิดีโอ เป็นต้นเฟส ยอดฮิตของโลก

3. เป็นแหล่งเรียนรู้ ให้ศึกษาการทดลอง ทางวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก เช่น การทดลองทางด้าน biological molecular ได้แก่ การทำ PCR , พันธุวิศวกรรม เป็นต้น

4.ทำให้สามารถ ติตามรายการ หรือละครต่างๆ ย้อนหลังได้slotxo

โทษ

1. เยาวชนอาจจะนำ youtube มาใช้ในทางที่ผิด เช่น การใช้กำลัง ในการแก้ปัญหา แล้วถ่ายคลิปลงใน youtube ทำให้เป็นแบบอย่างิที่ไม่ดีกับผู้ที่เข้ามาดูคลิปนี้

2. เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น การเอาหนัง ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ มาลง youtube

3. มีคลิปที่ไม่เหมาะสม กับเยาวชน เช่นคลิปลามากอนาจาร คลิปที่ส่อแนว ไปในทางมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น

4. เป็นการสร้างความเชื่อที่ผิดๆ โดยการนำความนำเสนอข้อมูล ที่ไม่เป็นจริง เช่น การกินเมนทอส พร้อมน้ำอัดลม ทำให้เป็นอันตราย ถึงชีวิตได้เลยค่ะ

จุดเเข็งของยูทูปที่ควรรู้

1. การเห็นคอนเทนต์ที่มี Impact มากกว่า

ในการลงโฆษณานั้น ส่วนใหญ่แล้วนักการตลาดจะคุ้นเคยกับการดูเรื่อง “การเข้าถึง” (Reach) เป็นสำคัญ เช่นการยิงโฆษณานี้เข้าถึงคนกี่คน แล้วจากนั้นก็จะพยายามคำนวนความคุ้มค่าในการลงโฆษณาเช่น Cost per Reach (CPR) หรือ Cost per Thousand Impressions (CPM)

อย่างไรก็ตาม มุมมองที่คุณไมค์พยายามย้ำว่านักการตลาดต้องให้ความสำคัญคือตัวคุณภาพของการเข้าถึงด้วย อย่างตัวคอนเทนต์วีดีโอโฆษณาที่ลงในสื่อต่างๆ นั้นก็ต้องดูด้วยว่าตัวคอนเทนต์ดังกล่าวนั้นมีคุณภาพในการดูมากน้อยแค่ไหน

2. การทำ Targeting ที่แม่นยำมากขึ้น

หลายคนอาจจะตั้งแง่ว่าการลงโฆษณาบน YouTube นั้นเป็นการลงโฆษณาในกลุ่มที่ “กว้าง” (คล้ายๆ กับการลงทีวี) แต่ในความจริงแล้วด้วยการที่ YouTube เป็นแพลตฟอร์มของ Google นั้น ถ้าผู้ลงโฆษณาประยุกต์ข้อมูลต่างๆ

ที่ตัว Google มีก็จะสามารถใช้ประโยชน์ในการระบุกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำมากขึ้น เช่นการใช้ข้อมูลของ Search หรือ Location ต่างๆ ตลอดไปจนถึงประเภทของคอนเทนต์ที่คนๆ นั้นเคยดูมาก่อนบนแพลตฟอร์มBetufa

(เช่นก่อนหน้านี้เคยดูรีวิวสินค้ากลุ่มไหนมา ดู Channel ไหนมา)แน่นอนว่าการเลือกกลุ่มเป้าหมายของ YouTube อาจจะไม่ได้เลือกแบบระบุละเอียดยิบ แต่เอาจริงๆ นักการตลาดก็สามารถมองภาพการลงโฆษณาโดยใช้ประโยชน์จากบริบทของข้อมูลต่างๆ มาเสริมได้ 

3. การเป็นแพลตฟอร์มวีดีโอคอนเทนต์ที่มีคนใช้มากที่สุด

จุดแข็งข้อนี้น่าจะเป็นเรื่องที่รู้ๆ กันว่าถ้าเป็นกลุ่มวีดีโอคอนเทนต์นั้น YouTube มีความแข็งแรงมากที่สุดแถมมี Local Content อย่างมากมาย มีการใช้งานครอบคลุมไม่ว่าจะกลุ่มหัวเมืองหรือต่างจังหวัด ซึ่งปัจจุบันมีก็มีการใช้งานที่สูงมาก ฉะนั้นถ้านักการตลาดที่อยากจะทำโฆษณาแบบวีดีโอคอนเทนต์แล้วล่ะก็ ตัว YouTube ก็ย่อมเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย

4. การลงโฆษณาที่ไม่จบแค่ “ดู”

การลงโฆษณาแบบ TrueView หรือที่บางคนอาจจะเรียกว่า Preroll (โฆษณาที่เล่นก่อนดูตัวีดีโอ) นั้นเป็นเรื่องที่หลายๆ คนคุ้นเคยกันอยู่บ้างแล้ว แต่จริงๆ แล้ว TrueView ยังสามารถลงโฆษณาแบบ TrueView for Action

เพื่อทำให้เมื่อโฆษณานั้นถูกเล่นจะไม่เพียงแค่เล่นตัววีดีโอให้จบเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถสร้าง Call to Action ไปยังพฤติกรรมอื่นๆ ได้ เช่นการ Install App การเลือกสินค้า คลิกไปหน้าเว็บไซต์ ฯลฯ ซึ่งจุดนี้จะไม่เหมือนกับ Video Ad ทั่วๆ ไปที่ให้คนดูจนจบเฉยๆ

เป็นไงกันบ้างคะ ถ้าทานให้ดูทุกอย่างแล้ว เห็นกันแล้วใช่ไหมคะว่า YouTube เป็นสิ่งที่สามารถ ทำรายได้ได้ และสามารถทำให้เราเพลิดเพลิน และมีความสุขไปกับการชมเพลินนั้นๆได้ อย่างไรแล้ว การดูยูทูปมากๆ ก็ไม่ดีต่อสายตานะคะ ดังนั้นควรรู้อย่างพอเหมาะ พอควร ไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไปแค่ทำให้ท่านมีความสุขใจ ก็พอค่า วันนี้ลาไปก่อนนี้สวัสดีค๊า🙏🙏🙏

Last Update : 9 สิงหาคม 2020 (ข้อมูลล่าสุดปี 2020)